ผิวหมองคล้ำ มีรอยด่างดำ ผิวเสียแม้ไม่ได้ตากแดด
“ปัญหาเกี่ยวกับผิวที่สาวๆเป็นกังวล ทั้งที่ดูแลตัวเองอย่างดีแต่ผิวก็ยังหมองคล้ำ ลองมาดูคำแนะนำจากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญทางด้านเวทย์ศาสตร์ชะลอวัย”
ผิวหมองคล้ำ ผิวดำ คืออะไร ?
ผิวหมองคล้ำเป็นภาวะที่สภาพผิวของเราเกิดความคล้ำ หมองขึ้นโดยเฉพาะผิวหน้าซึ่งปัจจัยการที่ผิวหมองคล้ำมีได้หลายสาเหตุ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะการตากแดดที่เกี่ยวข้องกับรังสี UV อย่างที่เข้าใจกันเท่านั้น ยังมีสาเหตุและปัจจัยอื่นๆที่ทำให้ผิวหน้าเราหมองคล้ำแบบไม่รู้ตัว เช่น ไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันที่ขาดการดูแลและการปกป้องผิว
ผิวหน้าหมองคล้ำ สามารถเกิดจากอะไรได้บ้าง?
1.แสงแดด หากผิวเผชิญกับแสงแดดที่มากเกินไป โดยไม่ได้ป้องกันด้วยการทาครีมกันแดด จะทำให้เกิดอันตรายต่อผิว อาทิ ผิวไหม้แดด ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ และร้ายแรงไปถึงขั้นมะเร็งผิวหนัง เนื่องจากรังสียูวีจากแดดจะทำลายเส้นใยในผิวหนัง หรือ อีลาสติน (Elastin) ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำ หย่อนคล้อย และมีริ้วรอยง่ายขึ้น
2.สภาพอากาศ สภาพอากาศที่แปรปรวนไม่ว่าจะร้อนหรือหนาวเย็นเกินไปเป็นอีกหนึ่งตัวการทำที่ให้ผิวหมองคล้ำ โดยเฉพาะในห้องแอร์ที่มีอากาศเย็นจะทำให้ผิวหนังแห้งตึง หากผิวแห้งมากๆ นอกจากจะส่งผลให้ผิวหมองคล้ำขึ้นแล้ว ยังนำมาซึ่งปัญหาผิวต่างๆ ทั้งผิวแตก ลอก อักเสบ เป็นต้น
3.ความเครียด อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้ระบบการทำงานในร่างกายผิดปกติ ผิวหน้าหมองคล้ำ และนำไปซึ่งปัญหาสิว เพราะหากร่างกายเผชิญกับความเครียดจะหลั่งฮอร์โมนที่เรียกว่า ‘คอร์ติซอล’ (Cortisol) ซึ่งทำให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันออกมามากเกินปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสิว
4.พักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำและนำไปซึ่งปัญหาผิวอื่นๆ ทั้งสิว ผิวหน้าโทรม ขาดความชุ่มชื่น เนื่องจากร่างกายไม่สามารถฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้ผิวเสื่อมสภาพได้ง่าย
5.ดื่มน้ำหรือรับประทานผักผลไม้น้อย ผักผลไม้อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เป็นสารอาหารที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระได้ดี จึงช่วยสร้างคอลลาเจนที่ทำให้ผิวหนังสดใสเปล่งปลั่ง หากร่างกายขาดสารอาหารเหล่านั้น รวมถึงการดื่มน้ำที่ไม่เพียงพอก็จะทำให้ร่างกายทำงานได้ไม่เต็ม 100% ส่งผลให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่สดใส และหากดื่มน้ำน้อยเกินไปจะส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะและไม่มีสมาธิ
6.อายุเพิ่มขึ้น ผิวเสื่อมสภาพ อีกหนึ่งสาเหตุของปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำเกิดจากอายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะในวัย 30+ ส่งผลให้เกิดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหนังหยาบกร้านและหมองคล้ำลงได้

เราสามารถฟื้นฟูผิวที่หมองคล้ำให้กลับมามีสุขภาพผิวที่ดีได้ไหม?
ปัญหาผิวหมองคล้ำ ไม่ใช่ปัญหาร้ายแรงเหมือนโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ สามารถฟื้นฟูผิวที่หมองคล้ำให้กลับมามีสุขภาพผิวที่ดีได้ด้วยตัวเองหรือแม้แต่กระทั่งเข้าพบแพทย์ทางด้านผิวหนังโดยตรงเพื่อช่วยให้คุณหมอสามารถปรับสภาพผิว แต่ในบทความนี้หมอโบว์มีเคล็ดลับในการบำรุงผิวเพื่อไม่ให้หมองคล้ำมาฝาก เราลองมาดูกันว่าจะมีวิธีไหนบ้าง
1.ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนอน การพักผ่อน การอดนอนบ่อย ๆ พักผ่อนไม่เพียงพอ ปาร์ตี้หนัก สูบบุหรี่ หรือทานอาหารไม่มีประโยชน์ โดยเฉพาะ ของหวาน น้ำตาล เป็นพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย และผิวพรรณ สังเกตได้เลยว่าสุขภาพ และผิวเสื่อมโทรมลง เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ได้ง่ายมาก ดังนั้นควรหันมาใส่ใจสุขภาพร่างกายให้มากขึ้น บำรุงจากภายใน เริ่มจากการผักผ่อนให้เพียงพอ
2.ป้องกันผิวจากแสงแดด รังสี UV ในแสงแดดเป็นตัวการร้ายที่ทำลายความแข็งแรงของผิว ทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เกิดปัญหาผิวหยาบกร้าน หมองคล้ำ รวมถึงฝ้า กระ จุดด่างดำ ได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้นถ้าไม่อยากให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลากลางวันหรือใช้ครีมกันแดดเพื่อช่วยปกป้องผิวหน้าของเราก็จะช่วยลดปัญหาตรงนี้สำหรับใครที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงแสงแดดได้จริงๆ
3.ดื่มน้ำเยอะ ๆ เราทราบกันดีว่าน้ำมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ทั้งช่วยเรื่องของระบบไหลเวียนโลหิต และระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ดีขึ้น ทั้งหมดนี้ส่งผลดีต่อผิวพรรณได้มากเลยทีเดียว นอกจากนั้นการดื่มน้ำเยอะ ๆ ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ผิวจึงดูสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น ดังนั้นถ้าอยากให้ผิวพรรณดี ดูสดใสเป็นธรรมชาติก็ควรดื่มน้ำให้มากๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
4.ล้างหน้าให้สะอาด สำหรับคนที่แต่งหน้าเป็นประจำ การเช็ดล้างเครื่องสำอางออกให้สะอาดหมดจดนั้นสำคัญมาก เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้เครื่องสำอาง รวมถึงสิ่งสกปรกตกค้างบนผิวได้ พอนานวันเข้าจะเกิดการอุดตัน ผิวหน้าอ่อนแอลง และเกิดปัญหาผิวหน้าอื่น ๆ ตามมาได้ง่ายขึ้น เช่น ปัญหาสิว รูขุมขนกว้าง ผิวหยาบกร้าบ ริ้วรอย สีผิวไม่สม่ำเสมอ เพราะฉะนั้นควรใส่ใจการล้างหน้าให้สะอาดให้มากๆ
5.บำรุงผิวด้วยการทานวิตามิน เราทราบกันดีว่าวิตามินอาหารเสริมต่างๆ โดยปกติแล้ววิตามินเหล่านี้จะสามารถหาได้จากอาหารบางชนิด แต่วิตามินอาหารเสริมที่นิยมผลิตมาขายเป็นแคปซูลก็เหมือนเป็นทางลัดให้นั่นเอง โดยที่เราไม่จำเป็นต้องหาจากอาหารเองซึ่งบางคนไม่สะดวก เราสามารถหาวิตามินที่ทานแล้วเกี่ยวข้องกับผิวได้ เช่น วิตามินซี คอลลาเจน

อาหารอะไรบ้างที่ทานแล้วส่งผลดีต่อสุขภาพผิว?
1. ดาร์กช็อกโกแลต นอกจากการทานช็อกโกแลตจะทำให้เราอารมณ์ดีแล้ว สารโกโก้ฟลาโวนอยส์ที่อยู่ในดาร์กช็อกโกแลตยังสามารถช่วยปรับสภาพผิวให้ผิวนุ่มและชุ่มชื้นได้ด้วย
2. โยเกิร์ต โยเกิร์ตอุดมไปด้วยไบโอติน ที่ช่วยบำรุงผิวและบำรุงเล็บให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยโปรตีนที่จะช่วยในการย่อยสลายไขมัน ทำให้ร่างกายของเรากระชับขึ้น
3. เมลอน เมลอนเป็นผลไม้ที่นอกจากจะมอบความสดชื่นยามอากาศร้อนๆ แล้ว ยังมีสารคาโรทีนอยด์ ที่ช่วยลดสิว ให้ความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว และชะลอการเกิดริ้วรอยได้อีกด้วย
4. แซลมอน ปลาแซลมอนมีโอเมก้า 3 ที่มีประโยชน์ต่อหัวใจ แถมยังดีต่อผิวอีกด้วย เพราะสามารถลดการอักเสบของสิว ลดรอยแดง ป้องกันความหมองคล้ำ นอกจากนั้นยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้นจากน้ำมันธรรมชาติ
5. ผักใบเขียว ผักใบเขียวประกอบไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ล้วนแต่เป็นอาหารผิวชั้นดี ช่วยปกป้องและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิว แถมยังช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากแสงแดดและรังสีที่จะเข้ามาทำร้ายผิวอีกด้วย
6. มะละกอ มะละกอเป็นผลไม้ที่เต็มไปด้วยใยอาหาร โฟเลต สารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามิน ช่วยบำรุงให้ผิวเปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น
7.เบอร์รี ผลเบอร์รีนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นบลูเบอร์รี เชอร์รี หรืออื่นๆ ต่างก็อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีส่วนช่วยในการต่อสู้กับปัญหาสิว


