โรคกระดูกพรุนไม่ได้เกิดขึ้นกับคนแก่เสมอไป วัยรุ่นก็ควรพึงระวัง
“กระดูกพรุน กระดูกบาง กระดูกเปราะแตกหักง่าย ปัญหาสุขภาพที่มักจะเกิดในทุกช่วงวัย ลองมาเจาะลึกกันกับแพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัย”
ภาวะโรคกระดูกพรุนคืออะไร?
โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) ภาวะที่มวลความหนาแน่นของกระดูกลดลง ซึ่งสามารถลดลงได้เรื่อยๆ ตามช่วงอายุและปัจจัยอื่นๆ จนทำให้มีอาการปวดตามข้อเข่าหรือกระดูกสันหลัง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บไปจนถึงขั้นร้ายแรง กระดูกแตกหักง่าย
สาเหตุของโรคกระดูกพรุน
ไม่ได้รับแคลเซียมที่เพียงพอ สาเหตุหลักๆส่วนใหญ่เกิดขึ้นมาจากการที่ไม่ได้รับแคลเซียมที่เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวัยเด็กและวัยหนุ่ม สาว ซึ่งเป็นช่วงที่ควรสร้างความหนาแน่นของกระดูกมากที่สุด
กรรมพันธุ์ อีกหนึ่งสาเหตุที่จะสามารถก่อให้เกิดภาวะกระดูกพรุน อาจเกิดจากบุคคลในครอบครัว เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย ของเรา หากท่านมีภาวะกระดูกพรุนอย่างชัดเจน เป็นไปได้ว่าลูกหลานก็อาจจะมีอาการเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
การสูบบุหรี่ การดื่มสุราเป็นประจำ ปัจจัยภายนอกเหล่านี้จะลดประสิทธิภาพการดูดซึม ธาตุแคลเซียม ใน ร่างกาย ทำให้กระดูกเสื่อมและหดลงเร็ว
คาเฟอีน การดื่มกาแฟมาก ๆ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเช่น โค้ก, ชา เป็นต้น ก็ทำให้กระดูกเสื่อมง่ายขึ้น
ฮอร์โมน การลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนของหญิงวัยหมดประจำเดือน ทำให้ ประสิทธิภาพในการดูดซึมแคลเซียมในร่างกายลดลง เป็นสาเหตุให้เกิดโรคกระดูก พรุนเพิ่มขึ้น
การไม่เคลื่อนไหวหรือออกกำลังกาย เมื่อวัยชราโรคกระดูดพรุนเกิดขึ้นรุนแรง ถ้าขาดการออกกำลังกาย และการสูญเสียความแข็งแรงของกระดูก มักเกิดขึ้นในช่วง ที่ไม่ได้เคลื่อนไหว เช่น ในขณะนั่งรถเข็น หรือนอนพักฟื้น
ขาดวิตามินดี เพราะในวิตามินดีมีความจำเป็นในการดูดซึมแคลเซียมไปใช้ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ ในบ้านเรามักจะไม่มี ปัญหาการขาดวิตามีนดี เนื่องจากมีแสงแดดตลอดปี

“ผู้หญิง” มีความเสี่ยงมากกว่า “ผู้ชาย”?
ผู้หญิงในช่วงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนหรือผู้หญิงที่เพิ่งจะคลอดบุตรจะเป็นช่วงที่เกิดการเสียมวลกระดูกมากกว่าปกติ ดังนั้นเมื่อบวกกับการที่ผู้ชายมีมวลกระดูกมากกว่าผู้หญิงตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ผู้หญิงจึงมักมีการกระดูกพรุนและกระดูกหักจากกระดูกพรุนมากกว่าผู้ชาย และในบางครั้งอาจพบโรคนี้ในคนที่อายุไม่มากโดยไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนได้
เราสามารถป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนได้อย่างไร ?
รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม ผักใบเขียว ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการดื่มสุราและสูบบุหรี่

การเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงในเด็กและวัยรุ่น
ร่างกายของเด็กและวัยรุ่นที่กำลังเจริญเติบโตต่างต้องการแคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เพื่อนำไปเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน ความแข็งแรงของกระดูกขึ้นกับปริมาณมวลกระดูก (bone mass) ซึ่งร่างกายจะสะสมมวลกระดูกได้มากที่สุดในช่วงเด็กและวัยรุ่น ถ้าเด็กและวัยรุ่นสามารถสะสมมวลกระดูกได้อย่างพอเพียง ก็จะลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนในวัยผู้ใหญ่หรือวัยสูงอายุได้ เพราะเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ การสลายกระดูกจะเกิดในอัตราที่เร็วกว่าการสร้างกระดูกใหม่ ทำให้ความหนาแน่นของกระดูกลดลงเรื่อย ๆ
ตัวอย่างของปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน
– รูปร่างผอมเปราะบางเพราะขาดอาหาร หรือเป็นโรคเรื้อรัง
– มีภาวะการดูดซึมอาหารทางกระเพาะอาหารหรือลำไส้ผิดปกติ
– ขาดวิตามินดี
– ได้รับยาบางชนิด เช่น เสตียรอยด์
– เด็กที่เข้าสู่วัยรุ่นช้ามาก
– ขาดฮอร์โมนการเจริญเติบโตหรือฮอร์โมนเพศ
ส่งเสริมกระดูกให้แข็งแรงง่าย ๆ …
– กินอาหารที่มีแคลเซียมในปริมาณพอเหมาะกับความต้องการของร่างกาย
– ลดอาหารที่เพิ่มการสูญเสียแคลเซียมจากร่างกาย
– ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะควรเล่นกีฬาที่ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก อาทิ วิ่งเหยาะๆ เทนนิส

อาหารอะไรบ้างช่วยให้ไม่เป็นโรคกระดูกพรุน?
เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าการดื่มนมไม่ว่าจะนมวัวหรือนมจากสัตว์อะไรก็แล้วแต่ มีส่วนช่วยในการเสริมแคลเซียม แต่ยังมีอาหารในชีวิตประจำวันของเราบางชนิดที่หาทานง่ายและก็ช่วยเสริมแคลเซียมของเราได้เช่นเดียวกัน เราลองมาดูว่าจะมีอะไรบ้าง
1.คะน้า แน่นอนว่าคะน้านับว่าเป็นผักใบเขียวที่มีประโยชน์มากและในใบคะน้าก็ยังมีแคลเซียมอยู่มากมายอีกด้วย หากมีโอกาสลองเอาคะน้ามาทำเป็นอาหารก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว เช่น คะน้าน้ำมันหอย
2.บรอกโคลี ผักสีเขียวอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยเสริมเรื่องแคลเซียม สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายหรือจะกินสดกับสลัดก็ได้
3.งา งาเม็ดเล็กๆ ที่เรามักจะเห็นในอาหารบ่อยๆ นี่เหล่ะ แคลเซียมเยอะเหมือนกันแถมยังหาได้ง่ายจากอาหารต่างๆในยุคปัจจุบันอีกด้วย
4.ปลาซาร์ดีน เป็นปลาที่หลายๆคนคุ้นๆหูแต่อาจจะไม่ได้มีโอกาสทานบ่อยๆ อยากจะบอกว่าเจ้าปลาซาร์ดีนมีประโยชน์เยอะมากๆ อย่างไขมันโอเมก้า 3 วิตามินดี และแคลเซียมที่จะช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง
5.นมถั่วเหลือง สำหรับใครที่มีอาการแพ้นมวัวก็อยากให้ลองมองนมถั่วเหลืองนี่เหล่ะ ได้แคลเซียมไม่ต่างจากนมวัวเลย
6.ซีเรียล ซีเรียลที่เรานิยมทานเป็นอาหารเช้าเป็นอาหารเสริมแคลเซียมชั้นดี ยิ่งหากทานควบคู่กับนมก็ช่วยให้เราได้รับแคลเซียมมากเลยทีเดียว
7.กุ้งแห้ง อาจจะฟังดูแปลกๆ สักหน่อยแต่กุ้งแห้งก็ถือว่าเป็นแหล่งเสริมแคลเซียมที่ดีเช่นกันแต่กุ้งแห้งมักจะมีรสชาติเค็ม แนะนำว่าไม่ควรทานเยอะจนเกินไป ทานแค่พอประมาณไม่งั้นจะส่งผลเสียกับร่างกายมากกว่าผลดี


